สรุปข้อสนเทศ : SKR-W1


สรุปข้อสนเทศ ลักษณะ เงื่อนไข และสาระสำคัญใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) (SKR - W1) วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เมื่อวันที่ 10 เดือนกันยายน พ.ศ. 2547 (เริ่มทำการซื้อขายวันที่ 10 กันยายน 2547) ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (SKR-W1) ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ 39,968,108 หน่วย จำนวนหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิ 39,968,108 หุ้น ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท โดยราคาการใช้สิทธิและอัตรา การใช้สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวเป็นการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2546 ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ ระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือได้ อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 4 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ คือ วันที่ 1 กันยายน 2547 วันที่ใช้สิทธิครั้งแรก ตรงกับวันทำการสุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน 2547 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ตรงกับวันทำการสุดท้ายของเดือนสิงหาคม 2551 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ หน่วยละ 0 บาท การกระจายการถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ณ วันที่ 1 กันยายน 2547 จำนวนราย จำนวนใบสำคัญ % ของใบสำคัญ แสดงสิทธิ แสดงสิทธิ 1. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็น: 1.1 รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ - - - 1.2 กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร รวมถึง 7 5,326,004 13.33 ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความสัมพันธ์ 1.3 ผู้ถือหุ้นที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ > 5% 1 2,447,640 6.12 โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย 1.4 ผู้มีอำนาจควบคุม - - - 1.5 ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีข้อตกลงใน - - - การห้ามขายใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน เวลาที่กำหนด 2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายย่อยที่ถือไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 1,903 32,190,703 80.54 3. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย 80 3,761 0.01 รวมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งสิ้น 1,991 39,968,108 100.00 หมายเหตุ : กำหนดให้ 1 หน่วยการซื้อขาย เท่ากับ 100 หลักทรัพย์ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใหญ่ (ณ วันที่ 1 กันยายน 2547) ชื่อ จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ ร้อยละของใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่ยื่นจดทะเบียนในครั้งนี้ 1. บริษัท จุลดิศ ดีเวลลอป จำกัด (มหาชน) 2,447,640 6.12 2. พล.ต.ท.จารักษ์ แสงทวีป 2,259,272 5.65 3. นายอติรัชต์ จรูญศรี 1,598,152 4.00 4. Mr.Teng, Ming-Ta 1,582,560 3.96 5. บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 1,303,604 3.26 6. นายศิลปชัย นิสากรสิทธิ์ 1,267,600 3.17 7. นายพงศ์อิทธิ์ มโนมัยอุดม 1,227,240 3.07 8. กองทุนเปิด อยุธยาทุนทวีปันผล 920,160 2.30 9. นายอำนาจ คล้ายไทย 898,462 2.25 10. บริษัทหลักทรัพย์ วชิระซีเคียวริตีส์ จำกัด 740,000 1.85 รวม 14,244,690 35.63 นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญตามสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) การใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1. วันกำหนดการใช้สิทธิ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธินี้ สามารถใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน พฤศจิกายน เดือนกุมภาพันธ์ เดือนพฤษภาคม และเดือนสิงหาคม ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยวันใช้สิทธิ ครั้งแรกตรงกับวันทำการสุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน 2547 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายตรงกับวันทำการสุดท้ายของ เดือนสิงหาคม 2551 2. ระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งประสงค์จะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จะต้องแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ตามวิธีการที่ระบุไว้ในหัวข้อวิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญ แสดงสิทธิระหว่างเวลา 9:00 น. ถึง 16:00 น. ภายใน 5 วันทำการ ก่อนวันกำหนดการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง สำหรับการ ใช้สิทธิครั้งสุดท้ายกำหนดให้มีระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายภายใน 15 วัน ก่อนวันกำหนดการใช้ สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทจะไม่มีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ ยกเว้นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทจะมีการ ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ 21 วัน ก่อนวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ในกรณีที่วันปิดสมุด ทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิตรงกับวันหยุดทำการของธนาคารพาณิชย์ให้เลื่อนเป็นวันเปิดทำการถัดไป โดย ตลาดหลักทรัพย์จะทำการขึ้นเครื่องหมาย SP (ห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์) ล่วงหน้า 3 วันทำการก่อนวันปิดสมุดทะเบียน ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งข่าวเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้สิทธิ อัตราการใช้สิทธิ ราคาการใช้สิทธิ ตลอดจนสถานที่ที่ใช้สิทธิ โดยผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูล (SETSMART) ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบอย่างน้อย 5 วันทำการ ก่อนวันแรกของ ระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิแต่ละครั้ง สำหรับการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทจะส่งจดหมายลงทะเบียนถึง ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ ณ วันปิดสมุดทะเบียน เงื่อนไขอื่นเกี่ยวกับการใช้สิทธิ 1. จำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ขอใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจะ ต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น โดยมีอัตราการใช้สิทธิเท่ากับหนึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิต่อหนึ่งหุ้นสามัญ เว้นแต่จะมีการปรับ สิทธิตามการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ 2. ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะเป็นผู้รับภาระอากรแสตมป์ที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการ ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญ 3. จำนวนหุ้นสามัญที่จะออกเมื่อมีการใช้สิทธิ จะคำนวณโดยการนำจำนวนเงินในการใช้สิทธิซึ่งผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ชำระตามที่กล่าวข้างต้น หารด้วยราคาการใช้สิทธิในขณะที่มีการใช้สิทธินั้น โดย บริษัทจะออกหุ้นสามัญเป็นจำนวนเต็มไม่เกินจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิคูณ ด้วยอัตราการใช้สิทธิ หากมีการปรับราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้สิทธิแล้วทำให้มีเศษเหลืออยู่จากการคำนวณ ดังกล่าว บริษัทจะไม่นำเศษดังกล่าวมาคิดคำนวณ และจะชำระเงินที่เหลือจากการใช้สิทธิดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 30 วัน นับจากวันกำหนดการใช้สิทธิ ในแต่ละครั้งโดยไม่มีดอกเบี้ย 4. หากบริษัทได้รับหลักฐานใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ใน แบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ หรือบริษัทตรวจสอบได้ว่าข้อความที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือ ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิกรอกลงบนแบบแสดงความจำนงในการใช้สิทธิไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องทำการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลา 5 วันทำการนับจากวันกำหนด การใช้สิทธิในแต่ละครั้ง หากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิไม่สามารถทำการแก้ไขให้ ถูกต้องภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ และ จะส่งเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิและใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดง สิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 14 วัน นับจากวันกำหนดการใช้สิทธิ ทั้งนี้ จะไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยให้ ไม่ว่ากรณีใดๆ 5. ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิชำระจำนวนเงินในการใช้สิทธิไม่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิในกรณีใดๆ บริษัทมีสิทธิที่จะดำเนินการประการใดประการหนึ่งดังต่อไปนี้ ตามที่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเลือกไว้ในแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิ 5.1 ถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นเป็นอันสิ้นสภาพลง โดยไม่มีการใช้สิทธิ หรือ 5.2 ถือว่าจำนวนหุ้นสามัญที่จองซื้อนั้น มีจำนวนเท่ากับจำนวนที่พึงจะได้รับตามจำนวนเงินในการใช้สิทธิซึ่งบริษัท ได้รับไว้จริงตามราคาการใช้สิทธิในขณะนั้น หรือ 5.3 ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิชำระเงินเพิ่มเติมตามจำนวนที่ประสงค์จะใช้สิทธิ ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้น หากบริษัทไม่ได้รับเงินครบตามจำนวนการใช้สิทธิ ภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทจะถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ ในกรณีตามข้อ 5.1 และ 5.3 บริษัทจะส่งเงินที่ได้รับไว้และใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งบริษัทถือว่าไม่มีการใช้สิทธิดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันถัดจากวันกำหนดการใช้สิทธิ โดยไม่มีดอกเบี้ย ในกรณีตามข้อ 5.2 บริษัทจะส่งใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่เหลือในกรณีที่บริษัท ถือว่ามีการใช้สิทธิเพียงบางส่วนคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 30 วัน นับจากวันถัดจากวันกำหนดการใช้สิทธิโดยไม่มีดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิที่ยังไม่มีการใช้สิทธิดังกล่าว ยังมีผลใช้ได้ต่อไปจนถึงวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 6. เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข การแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นสามัญ กล่าวคือ ได้ส่งมอบทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ แบบแสดงความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ และชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะไม่สามารถเพิกถอนการใช้สิทธิได้ 7. เมื่อพ้นวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิยังมิได้ ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการใช้สิทธิที่กำหนดไว้อย่างครบถ้วน ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ นั้นเป็นอันสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้สิทธิไม่ได้อีก เมื่อพ้นกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 8. ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นจำนวนมากกว่า จำนวนที่ประสงค์จะใช้สิทธิ บริษัทจะส่งใบสำคัญแสดงสิทธิใบใหม่โดยมีจำนวนของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ลดลงให้แก่ผู้ถือ ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว หากใบสำคัญแสดงสิทธินั้นอยู่ในระบบใบหุ้น โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วัน นับจาก วันกำหนดการใช้สิทธินั้นๆ และจะทำการยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิใบเก่า 9. บริษัทจะดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วต่อกระทรวงพาณิชย์ตามจำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ สำหรับการใช้สิทธิในแต่ละครั้งภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นครบตามจำนวนที่มีการใช้สิทธิในแต่ละครั้ง และบริษัทจะดำเนินการจดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ใช้สิทธินั้นเข้าเป็นผู้ถือหุ้น สามัญของบริษัทในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นสามัญที่ได้จากการใช้สิทธิในครั้งนั้น 10. ในกรณีที่หุ้นสามัญที่สำรองไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิไม่เพียงพอ บริษัทจะดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่ สามารถใช้สิทธิได้ ถึงแม้ว่าจะมีหุ้นสามัญเพียงพอก็ตาม (เช่น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต่างด้าวที่ไม่สามารถใช้สิทธิเพราะถูกจำกัด สิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้นตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) วิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิโดยจะต้องแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิตาม ระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิที่ระบุไว้ข้างต้น ได้ที่สถานที่ติดต่อและวิธีการใช้สิทธิดังนี้ 1. สถานที่ติดต่อในการใช้สิทธิ คุณอุษณีย์ รุ่งวิไลเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) สำนักงาน: 4/29 หมู่ 10 ถนนศรีนครินทร์ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 โทรศัพท์: 0-2383-4391-4400 โทรสาร: 0-2383-4414-15 ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถติดต่อขอรับแบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อ หุ้นสามัญได้ที่สำนักงานของบริษัทตามที่อยู่ที่ระบุไว้ข้างต้น ในระหว่างระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ 2. วิธีการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ 2.1 การใช้สิทธิในระบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ในระบบไร้ใบหุ้น ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ต้องการใช้สิทธิต้องแจ้งความจำนง และกรอกแบบคำขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิหรือเพื่อให้ออกใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนด โดยยื่นต่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) ของตน และ Broker จะดำเนินการแจ้งกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือดำเนินการออกใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิสำหรับนำไปเป็นหลักฐาน ประกอบการใช้สิทธิซื้อหุ้นที่จะยื่นกับบริษัท เพื่อดำเนินการใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.2 2.2 ใช้สิทธิโดยการใช้ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Scrip) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญจะต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไขการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ โดยดำเนินการและส่งมอบเอกสารและหลักฐานดังต่อไปนี้ให้แก่บริษัทตาม สถานที่ติดต่อข้างต้น (ก) แบบแสดงความจำนงการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ได้กรอกข้อความถูกต้อง ชัดเจน และครบถ้วนทุกรายการ (ข)ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามแบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด (ในกรณีที่ใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ในระบบไร้ใบหุ้นหรือใบสำคัญแสดงสิทธิสูญหาย) ตามจำนวนที่ระบุไว้ในแบบแสดง ความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท และหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมารับใบสำคัญแสดงสิทธิใบใหม่ สำหรับ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังมิได้มีการใช้สิทธิ (ถ้ามี) (ค) ชำระเงินตามจำนวนการใช้สิทธิที่ระบุไว้ในแบบแสดงความจำนงในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ โดยผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจะต้องชำระเป็นเช็ค ดร๊าฟท์ ตั๋วแลกเงินธนาคาร หรือคำสั่งจ่ายเงินธนาคารที่สามารถเรียกเก็บได้ในเขตกรุงเทพมหานครภายในกำหนดวันใช้สิทธิ โดยขีดคร่อมสั่งจ่าย "บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน)" ทั้งนี้การใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวจะสมบูรณ์ต่อเมื่อบริษัท ได้เรียกเก็บเงินจำนวนดังกล่าวได้แล้ว เท่านั้น หากเรียกเก็บเงินไม่ได้ด้วยเหตุใดๆ ที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต้องรับผิดชอบ ให้ถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแสดง เจตนายกเลิก และบริษัทตกลงให้ถือเป็นการยกเลิกการขอใช้สิทธิในครั้งนั้น แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิที่จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ ในครั้งต่อไป เว้นแต่เป็นการยกเลิกการใช้สิทธิในครั้งสุดท้ายให้ถือว่าหมดสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ดังกล่าวอีกต่อไป (ง) หลักฐานประกอบการใช้สิทธิ 1. บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย : สำเนาบัตรประชาชน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 2. บุคคลธรรมดาสัญชาติต่างด้าว : สำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 3. นิติบุคคลในประเทศ : สำเนาหนังสือรับรองพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ และเอกสารหลักฐานของผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อตาม 1. หรือ 2. พร้อมรับรอง สำเนาถูกต้อง แล้วแต่กรณี 4. นิติบุคคลต่างประเทศ : สำเนาเอกสารการจดทะเบียนรับรองโดย Notary Public พร้อมรับรองสำเนา ถูกต้อง และสำเนาเอกสารหลักฐานของผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ ตาม 1. หรือ 2. พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง แล้วแต่กรณี การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ 1. บริษัทต้องดำเนินการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อมิให้สิทธิ ประโยชน์ของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปกว่าเดิม เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ดังต่อไปนี้ 1.1 เมื่อบริษัทเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัท อันเป็นผลมาจากการรวมหรือแบ่งแยกหุ้นสามัญที่ ออกแล้วของบริษัท 1.2 เมื่อบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญต่อผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือประชาชนทั่วไป ในราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ที่คำนวณได้ต่ำกว่า "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท" เกินกว่าร้อยละ 10 1.3 เมื่อบริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือประชาชนทั่วไป โดยหลักทรัพย์นั้นให้ สิทธิแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ในการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ ใบสำคัญ แสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยที่ราคาเฉลี่ยต่อหุ้นของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับสิทธิดังกล่าวต่ำกว่า "ราคาตลาดของ หุ้นสามัญของบริษัท" เกินกว่าร้อยละ 10 1.4 เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท 1.5 เมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลเป็นเงินเกินกว่าอัตราร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของบริษัท สำหรับผลการ ดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใดๆ ระหว่างอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 1.6 ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและผลประโยชน์ใดๆ อันพึงได้ โดยที่ เหตุการณ์นั้นๆ ไม่ได้กำหนดอยู่ในข้อ 1.1 ถึง ข้อ 1.5 ให้บริษัท และบริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะ ที่ปรึกษาทางการเงินร่วมกันพิจารณาเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ และ/หรืออัตราการใช้สิทธิใหม่อย่างเป็น ธรรม และไม่ทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับผลประโยชน์ด้อยไปกว่าเดิม โดยให้ ถือว่าผลการพิจารณานั้นเป็นที่สุด และให้บริษัทแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบถึงรายละเอียดดังกล่าวภายใน ระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ที่ต้องทำให้ปรับสิทธิ 2. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 1.1 ถึงข้อ 1.6 เป็นอิสระต่อกัน และจะ คำนวณการเปลี่ยนแปลงตามลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ก่อนหลังเปรียบเทียบกับ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัท" สำหรับ กรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน ให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรียงตามลำดับดังนี้ คือ ข้อ 1.1 ข้อ 1.2 ข้อ 1.3 ข้อ 1.4 ข้อ 1.5 และข้อ 1.6 โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณการเปลี่ยนแปลงให้คงสภาพของราคาการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง และอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง 3. การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้และอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 1.1 ถึงข้อ 1.6 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ ราคาการใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรืออัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีการรวมหุ้น ในกรณีที่หุ้นสามัญซึ่งคำนวณจากอัตรา การใช้สิทธิหลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 5 ตำแหน่ง) คูณด้วยจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ของการแสดงความจำนงการใช้สิทธิในแต่ละครั้งคำนวณออกมาเป็นเศษของหุ้นให้ตัดเศษของหุ้นนั้นทิ้ง และหากราคาการ ใช้สิทธิหลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 3 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนหุ้นสามัญในการแสดงความจำนงการใช้สิทธิในรอบนั้น คำนวณได้เป็นเศษของบาทให้ตัดเศษของบาททิ้ง 4. ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิดังกล่าว มีผลทำให้ราคาการใช้สิทธิใหม่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ ของหุ้นสามัญของบริษัทก็ให้ใช้ราคาการใช้สิทธิใหม่ดังกล่าว เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายห้ามมิให้บริษัทออกหุ้นต่ำกว่ามูลค่า ที่ตราไว้ให้ถือเอามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทเป็นราคาการใช้สิทธิใหม่ ส่วนอัตราการใช้สิทธิให้ใช้อัตราการใช้ สิทธิที่คำนวณได้ตาม 1.1 ถึง 1.6 เช่นเดิม 5. สถานภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่อยู่ระหว่างวันที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือ ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิแสดงความจำนงการใช้สิทธิ และวันก่อนวันที่กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว อันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีสถานภาพและสิทธิเช่นเดียวกับ ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงการใช้สิทธิ และสถานภาพจะสิ้นสุดลงใน วันที่กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญ แสดงสิทธิข้างต้นแล้ว ในกรณีที่บริษัทมีการปรับราคาการใช้สิทธิและ/หรืออัตราการใช้สิทธิในช่วงระยะเวลาที่บริษัทยังไม่ได้นำหุ้นสามัญที่ เกิดจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้ทำการใช้สิทธิแล้วจะได้รับการปรับสิทธิย้อนหลัง โดยบริษัทจะดำเนินการออก หุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิโดยเร็วที่สุดตามจำนวนที่ผู้ถือใบสำคัญ แสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิสมควรจะได้รับ หากราคาที่ได้ปรับใหม่นั้นมีผลบังคับใช้ โดยหุ้นสามัญส่วนที่เพิ่ม ใหม่อาจได้รับช้ากว่าหุ้นสามัญที่ได้รับก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่เกิน 45 วันนับจากวันที่มีการปรับสิทธิ 6. การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น บริษัทจะดำเนินการแจ้ง ผลการเปลี่ยนแปลงโดยบอกถึงรายละเอียดวิธีการคำนวณและเหตุผลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อแจ้งราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิที่กำหนดขึ้นมาใหม่ รวมทั้งข้อเท็จจริง (ยังมีต่อ)